https://www.banggood.com/50X-LED-Illumination-Pen-Style-Pocket-Microscope-Magnifying-Glass-with-Reading-Scales-p-1137785.html?p=8Z020971524652016114

Cycling or Run route in Tha Muang Kanchanaburi Thailand 40 kms-เส้นทางปั่น วิ่ง 40 กิโลฯ ท่าม่วง กาญจนบุรี

สวัสดีครับโพสนี้ เป็นการแนะนำเส้นทาง ปั่น วิ่ง หรือ ขับรถชมวิว ระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร ที่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรีครับ ถ้าพูดถึง อ.ท่าม่วง บางท่านอาจจะเคยผ่านตา เวลาจะมาเที่ยวกาญจนบุรี แต่ส่วนใหญ่ อาจไม่เคยแวะเข้ามา เพราะปัจจุบัน ถนนแสงชูโตเส้นใหม่ หรือ เส้น 323 เป็นเส้นตัดตรง ไปยัง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ได้เลย โดยหากท่านต้องการแวะ อ.ท่าม่วงต้องเลี้ยวซ้าย ที่ประมาณ กิโลเมตรที่  115 ถัดจากปั๋ม ปตท. นะครับ แต่หากท่านมีเวลาไม่มาก สามารถเลี้ยวเข้ามาใช้เส้นทางเลียบ เขื่อนแม่กลอง ชมความสวยงามของธรรมชาติ เพื่อไปยัง อ.เมืองได้ด้วยนะครับ ระยะทางประมาณพอๆ กับวิ่งเส้น 323 แต่คดเคี้ยวหน่อย และอาจใช้เวลามากกว่าประมาณสักสิบนาที ครับ แหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้มาเที่ยวกันเป็นประจำ (ส่วนใหญ่มากับทัวร์ ไหว้พระ 9 วัด) คือ วัดถ้ำเสือ วัดถ้ำเขาน้อย วัดถ้ำแฝด เขื่อนแม่กลอง ซึ่งมีวิวที่สวยงามมากครับ นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ ที่ผมขอเรียกว่า unseen คือ ต้นก้ามปูยักษ์ หรือ Big Tree และ มีโรงเรียนสอนขี่ม้าของทหาร และฟาร์มม้า ของกองการสัตว์และเกษตรกรรมที่ 1 อีกด้วยครับ แต่ใน โพสต์นี้ ขออนุญาต ไม่ลงรายละเอียดของสถานที่เหล่านี้นะครับ ขอเน้นเป็นเส้นทางก่อนนะครับ ก่อนแนะนำเส้นทางขอสรุปข้อมูลให้ด้งนี้ครับ 1. ระยะทางทั้งสิ้น จากจุดเริ่มต้น วนกลับมาที่เดิม ประมาณ 45 กิโลเมตร 2. สภาพถนน เป็น ถนนลาดยาง สองเลน (รถยนต์ไม่ค่อยพลุกพล่าน แต่มีมาบ้างเป็นระยะ) มีหลุมบ่อ บ้างแต่ไม่มาก และมีช่วงประมาณ 500 เมตร เป็นลูกรัง 3. จุดที่สามารถแวะพักและท่องเที่ยวไปในตัว คือ สวนรุกขชาติ เขื่อนแม่กลอง วัดถ้ำเสือ วัดบ้านถ้ำ โรงเรียนสอนขี่ม้า กองการสัตว์ฯ ต้นก้ามปูยักษ์ 4. กิจกรรมที่น่าสนใจ ขึ้นกระเช้าไปชมเจดีย์ วัดถ้ำเสือ และไต่ไปจนถึงยอดเจดีย์ เพื่อชมความสวยงามของเขื่อนแม่กลอง และพื้นที่เกษตรกรรม ขึ้นไปสักการะและเที่ยวชมถ้ำของวัดบ้านถ้ำ ให้อาหารปลา ที่วัดนางโน แวะทานปลาสดจากกระชัง ที่ร้าน ไผ่ริมแคว แวะขี่ม้าเล่น ที่ โรงเรียนสอนขี่ม้า(คาดว่าเปิดเฉพาะวันธรรมดานะครับ) ถ่ายรูปกับฝูงม้าในกองการสัตว์ฯ แวะชมความอลังการ ของต้นก้ามปูยักษ์ หากเหนื่อย ก็แวะพักสักหนึ่งคืน ที่รีสอร์ตเล็กๆ ริมเขื่อนแม่กลอง (ค่าที่พักคืนนึงประมาณ 700-1,200 บาท)
แผนที่เส้นทาง
ขอบคุณไอคอนสวยๆ จาก https://openclipart.org/
เริ่มกันเลย เข้าอำเภอท่าม่วง จากถนน แสงชูโต หรือ ถนนหมายเลข 323 เลี้ยวซ้าย หลังจากเลยหลักกิโลเมตรที่ 115 (หลักกิโลฯ อยู่บริเวณเกาะกลาง) จะเห็นปั๊ม ปตท. อยู่ซ้ายมือ เลยปั๊ม ปตท.ไปหน่อย เป็นทางแยกเข้า อ.ท่าม่วงครับ *ก่อนหน้านี้จะมีป้ายชี้ให้เลี้ยวซ้ายเข้า อ.ท่าม่วง บริเวณสี่แยกก่อนหน้า ไม่ต้องเลี้ยว มาเลี้ยวที่ตรงนี้ เข้าอำเภอง่ายกว่า  เมื่อเลี้ยวซ้ายแล้วขับตรงไปประมาณ 2 กิโลเมตร จะผ่านโลตัสด้านซ้ายมือ และเมื่อข้ามคลองชลประทานจะพบวงเวียนหอนาฬิกา วนออกบริเวณ 3 นาฬิกา
สวนรุกขชาติ (สวนรุกขชาติเฉลิมพระเกียรติ ร.9) ออกจากวงเวียนจะพบสวนรุกขชาติอยู่ทางซ้ายมือ ตรงไปประมาณ 50 เมตรจะมีลานจอดรถและประตูใหญ่ของสวนรุกขชาติ จอดรถบริเวณนี้และใช้เป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางนี้ได้ครับหากต้องการลานกว้างพร้อมหลังคา สามารถเข้าไปในสวนได้ครับ มีลานให้จัดกิจกรรมพร้อมหลังคาขนาดใหญ่เลยครับ *แต่ผมไม่แน่ใจว่าต้องขออนุญาตใครก่อนหรือเปล่านะครับ
เขื่อนแม่กลอง จากสวนรุกขชาติตรงไปประมาณ 2.5 กิโลเมตร จะถึงสันเขื่อนแม่กลอง หากต้องการพักสามารถเลี้ยวไปทางขวาก่อนข้ามสันเขื่อนจะเป็นลานสนามหญ้าเล็กๆ หรือตรงเข้าไปสุดด้านในเขื่อนจะเป็นที่พักของเขื่อนครับบรรยากาศดีทีเดียว ชาวท่าม่วงนิยม มาจัดงานแต่งงานกันที่นี่
วัดถ้ำเสือ จากเขื่อนแม่กลองตรงข้ามสันเขื่อน จนสุดถนนลงเนิน เป็นสามแยก เลี้ยวขวาครับ เมื่อเลี้ยวแล้วจะเห็นร้านมินิมาร์ทอยู่ซ้ายมือ แวะซื้อเสบียงกันก่อนได้ แล้วตรงไปตามทางเรื่อยครับ จนถึงถนนบังคับเลี้ยวขวา ตรงไปหน่อย ซ้ายมือเป็นทางแยกไปวัดถ้ำเสือ หากต้องการแวะเที่ยวที่นี่ก่อนก็เข้าไปตามถนนซ้ายมือได้เลยครับ แต่หากไปต่อก็ตรงไปตามทาง เป็นทางขึ้นเนินบังคับเลี้ยวซ้ายแบบหักข้อศอก จุดนี้ระวังนิดนึง ถนนจะแคบหน่อย *ชมภาพวัดถ้ำเสือได้จากเว็บนี้ครับ http://www.chilldtravel.com/
เมื่อผ่านทางเลี้ยวซ้ายหักข้อศอกแล้ว ตรงมาเรื่อยครับ ขวามือจะเป็นเขื่อน มีที่พักเป็นรีสอร์ทเล็กๆ ราคาเบาๆ คืนละ 1,000 บาท เช่นบ้านวาริษา และร้านอาหารริมน้ำ ครับ แต่หากชอบปลาสดๆ เลยไปอีกหน่อยครับ ร้านนั้นมีกระชังปลาของตัวเอง ...เดี๋ยวถึงแล้วบอกครับ จากจุดนี้ตรงไปเรื่อยครับ จะผ่านวัดนางโนอยู่ขวามือ ใครชอบให้อาหารปลาแวะเข้าไปได้มีโป๊ะและอาหารปลาให้บริการ
จากวัดนางโนขับตรงไปเรื่อยครับจนถึงถนนแคบๆ ซึ่งเป็นประตูน้ำของคลองชลประทาน ขับข้ามไปครับ ข้ามคลองแล้วเลี้ยวขวา แล้วเป็นทางบังคับเลี้ยวซ้ายอีกทีครับ คราวนี้ตรงเลยครับ ตรงมาสักพักด้านขวามือเป็นร้านไผ่ริมแควครับ ร้านนี้แหละที่ผมบอกว่ามีปลาสด เช่นพวกปลาคัง เมนูเด็ดที่ผมชอบคือ สลัดปลาทอด จานใหญ่มากทานได้ประมาณ 6-7 คนเลยครับ และอาหารเค้าราคาไม่แพงด้วยนะครับ แต่เสียอย่างเดียวหน้าร้อน แมลงวันเยอะไปหน่อยครับ จากจุดนี้ขับตรงไปเรื่อยครับจะมองเห็นวัดบ้านถ้ำอยู่ข้างหน้า ซึ่งเป็นทางบังคับเบี่ยงขวา แล้ววัดอยู่ซ้ายมือครับ ที่วัดนี้มีถ้ำและวิว สวยงามครับ แวะขึ้นไปชมได้ ส่วนฝั่งตรงข้ามวัดเป็นท่าน้ำ ผมเห็นมีงานแข่งเรืออยู่บ่อยๆ
จากวัดบ้านถัำตรงมาสักครู่จะพบสุสานจีน (ฮวงซุ้ย) อยู่ด้านซ้ายมือ เลยมาหน่อยเป็นโรงโม่หินแห่งที่หนึ่งครับ โดยจะมีการระเบิดหินเล็กๆ น้อย อยู่ด้านบนภูเขาซ้ายมือ ส่วนด้านขวาเป็นที่เค้าโม่หินและกองหินไว้ ช่วงนี้ต้องระวังหน่อยครับ มีหลุมบนถนนบ้าง
เลยโรงโม่หินแห่งที่หนึ่งมาหน่อยจะเป็นสุสานจีนบริเวณนี้จะมีฮวงซุ้ยเยอะหน่อย อยู่ด้านซ้ายมือ ช่วงนี้ต้องระวังเช่นกันครับ เพราะมีหลุมบนถนน และมีรถใหญ่วิ่งขนหิน เข้าออก
เลยจากฮวงซุ้ยที่สองมาจะเป็นโรงโม่หินแห่งที่สองครับ ตรงไปเรื่อยจนสุดถนนเป็นทางสามแยกครับ สามแยกถนนหมายเลข 3429 เมื่อมาถึงทางแยกให้เลี้ยวซ้ายครับ จะเข้าสู่ถนน 3429 แต่หากใครต้องการเข้า อ.เมือง กาญจนบุรี เลี้ยวขวา ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำไป อีกประมาณ 3 กิโลเมตร ก็เป็นศาลากลางจังหวัดแล้วครับ กลับมาเส้นทางของเราต่อนะครับ เมื่อเลี้ยวซ้ายแล้วขับตรงไปประมาณ 3.5 กิโลเมตร จะพบทางแยก ให้เลี้ยวซ้ายครับ (เลี้ยวขวาเป็นทางตันจะเป็นถนนเส้นเล็กๆ ไปจนสุดท่าน้ำ) โรงเรียนสอนขี่ม้า เมื่อเลี้ยวซ้ายที่ทางแยกแล้ว ตรงมาอีกประมาณ 3.4 กิโลเมตร จะเห็นโรงเรียนสอนขี่ม้าอยู่ด้านขวามือ ติดแม่น้ำ เท่าที่ทราบเค้าเป็นสอนช่วงบ่ายวันจันทร์ถึงศุกร์ ครับ แต่ผมเคยไปเช้าวันเสาร์เค้าก็ให้ลองขี่ได้ครับ ต้องลองแวะสอบถามนะครับ หรือหากมีข้อมูลเพิ่มเติม เดี๋ยวผมจะมาใส่ใน comment ไว้ให้ ทางแยกที่ 3 จากโรงเรียนสอนขี่ม้าตรงมาอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จนสุดทางจะเป็นสามแยกครับ เลี้ยวขวาไป อ.ด่านมะขามเตี้ย แต่เส้นทางเราให้เลี้ยวซ้ายครับ ตรงทางแยกนี้จะมีป้ายไปต้นจามจุรียักษ์อยู่ครับ เลี้ยวซ้ายแล้วจะเป็นถนนเส้น 3581 ครับ ถ่ายรูปกับฝูงม้าที่กองการสัตว์ฯ เลี้ยวซ้ายแล้วตรงไปเรื่อยครับ ประมาณ 1 กิโลเมตรจะถึงทางเข้ากองการสัตว์และเกษตรกรรม 1 ซึ่งมีป้อมยามอยู่ ครับและประตูจะเปิดช่วง 8 โมงเช้า และปิด 6 โมงเย็นครับ (ตรงนี้เป็นสถานที่ราชการ ผมเข้าใจว่าเป็นของทหาร อาจต้องลดเสียง และจัดระเบียบกันหน่อยนะครับ เพราะหากมีคนมารบกวนมากๆ ในอนาคตเค้าอาจเข้มงวดและไม่เปิดให้บุคคลภายนอกผ่านได้นะครับ) เข้าประตูไปแล้วเลี้ยวขวานะครับ จะเป็นทุ่งเลี้ยงมาขนาดใหญ่ สองข้างทางเลยครับ มีม้าทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่
แวะพักขบวนที่ต้นจามจุรียักษ์ มีห้องน้ำ และร้านขายน้ำ เมื่อผ่านทุ่งเลี้ยงม้ามาจนสุดทางเป็นทางบังคับเลี้ยวซ้ายครับ เมื่อเลี้ยวซ้ายแล้วตรงไปอีกประมาณ 200 เมตร จะเห็นสามแยกครับ ตรงมีป้ายบอกไปต้นจามจุรียักษ์ซึ่งคือให้เลี้ยวขวาครับ เลี้ยวขวาแล้วตรงไปหน่อยนึงก็ถึงแล้วครับ บริเวณนี้มีห้องน้ำและร้านเล็กๆ ขายเครื่องดื่มอยู่ครับ
จากต้นจามจุรียักษ์ ไปต่อวัดถ้ำเสือ แวะพักกันเสร็จแล้ว ออกจากจุดนี้เลี้ยวซ้ายครับ ตรงไปตามทางถนนลาดยางสองเลน ทางเรียบตลอด จนสุดถนนลาดยางจะเป็นถนนลูกรังอีกประมาณ 500 เมตร
*ถนนลูกรัง ปรับปรุงเป็นถนนลาดยางอย่างดีแล้ว เมื่อต้นปี 2560
ขึ้นจากถนนลูกรังผ่านวัดเขาขวาง ผ่านถนนลูกรังเป็นถนนปูนซีเมนต์ครับ อาจมีถนนแตกบ้างบางช่วง ตรงมาประมาณ 400 เมตร จะผ่านป้ายวัดเขาขวางอยู่ด้านขวามือครับ จากนั้นก็ตรงไปเรื่อย ผ่านไร่อ้อย ไปประมาณ 4 กิโลเมตร จะถึงทางแยก ข้างหน้าเป็นคลองชลประทานครับ ตรงข้ามคลองมาประมาณ 300 เมตร จะเป็นทางแยก ถ้าตรงไปก็ไปวัดนางโน แต่ถ้าจะแวะวัดถ้ำเสือ ก็เลี้ยวขวาครับ แล้วตรงไปประมาณ 1.2 กิโลเมตรจะเริ่มเห็นตัววัด ตรงไปเรื่อยจนถึงสี่แยกที่สอง เลี้ยวขวาเป็นประตูหน้าของวัดเลยครับ
กลับไปสวนรุกขชาติฯ จุดเริ่มต้น จากวัดถ้ำเสือ ก็วิ่งกลับเส้นทางเดิมครับ คือ ออกจากประตูหน้าของวัด ตรงมาจนถึงสี่แยกก็เลี้ยวขวาแล้วตรงไปตามทาง จนถึงป้ายทางเข้าวัด คราวนี้ก็เลี้ยวขวา ไปตามถนนที่มาในตอนช่วงต้นครับ จนกลับไปถึงสวนรุกขชาติ ครับ แต่ถ้าใครพอมีเวลา จะบวกด้วย เส้นทางระยะสั้นที่ผมโพสไว้ก่อนหน้านี้ด้วยก็ได้ ครับ
ขอให้สนุกกับเส้นทางนี้นะครับ
*ใครสนใจเส้นทางระยะสั้น ดูได้ที่นี่ครับ "http://takeyourfamilyout.blogspot.com/2015/09/blog-post.html"

======เครื่องสร้างอากาศบริสุทธิ์ = Xdoor Mini Air Personal Portable =====

ใช้ได้ทุกที่สะดวกพกพา


Previous
Next Post »